แม่ฮ่องสอน จัดไฟแนนซ์รถมือสองที่ไหนดี ถ้าพรุ่งนี้ไฟแนนซ์จะมายึดรถ เราค้างจ่ายมา 4เดือน หากท่านกำลังถูกไฟแนนซ์ขู่ยึดรถ ติดต่อเรามา
ไฟแนนซ์รถแม่ฮ่องสอน
จัดย้ายรีไฟแนนซ์แม่ฮ่องสอน
สินเชื่อรถยนต์แม่ฮ่องสอน
รีไฟแนนซ์แม่ฮ่องสอน
ย้ายไฟแนนซ์แม่ฮ่องสอน
ค้างค่างวดรถแม่ฮ่องสอน
รีไฟแนนซ์รถยนต์แม่ฮ่องสอน
จํานําทะเบียนรถแม่ฮ่องสอน
กรณีที่รถติดภาระในการผ่อนไฟแนนซ์อยู่ (จำนำรถอยู่,ผ่อนรถแลกเงินแม่ฮ่องสอน ,อื่นๆ) อยากนำรถมาขอสินเชื่อ(รถแลกเงินแม่ฮ่องสอน ,กรุงไทย ออโต้ลีส ,สินเชื่อทะเบียนรถ,)
แล้วแต่จะเรียก แล้วแต่สถาบันการเงินนั้นๆ จะใช้ชื่อว่าอะไร ในกรณีนี้ ทางเราขอเรียนกว่า รีไฟแนนซ์รถยนต์แม่ฮ่องสอน ซึ่งสามารถอธิบายขั้นตอน คร่าวๆ ได้ด้งนี้

1.รถท่านติดภาระ กับไฟแนนซ์ไหน ให้โทรเข้าไปสอบถาม ถึงยอดปิดบัญชี ว่าต้องจ่ายทั้งหมดเท่าไร ขอส่วนลดด้วยนะครับเพราะ ตามกฏหมาย ทางไฟแนนซ์ กรณีที่เราปิดบัญชีก่อน ครบอายุสัญญาเช่าซื้อ ต้องลดดอกเบี้ย ที่เหลืออยู่ให้เราครึ่งหนึ่งครับ
ปิดบัญชีไฟแนนซ์รถยนต์แม่ฮ่องสอน
รถค้างค่างวดแม่ฮ่องสอน
รับปิดบัญชีรถยนต์แม่ฮ่องสอน
แม่ฮ่องสอนจัดไฟแนนซ์รถมือสองที่ไหนดี
ขายรถมือสองจัดไฟแนนซ์แม่ฮ่องสอน
ไฟแนนซ์ซื้อรถมือสองแม่ฮ่องสอน
หากใครมีญาติพี่น้องหรือคนรู้จักกำลังเดือดร้อนโดน ไฟแนนซ์ยึดรถไปแล้ว เราช่วยไถ่ถอนรถให้คุณได้.
เราบริการไถ่ถอนรถยึดแม่ฮ่องสอน ขั้นตอนง่ายๆเพียงโทรหาเรา ไม่ยุ่งยากค่ะ จะได้รถคืนไปใช้เหมือนเดิม (แจ้งรายละเอียดรถ รุ่นรถ ปีรถ ยอดเงินปิดบัญชี). >>
นอกจากนั้นเรายังบริการรี โอนย้าย ไฟแนนซ์รถยนต์มือสองแม่ฮ่องสอน รับปิดบัญชีรถยนต์ ไม่เช็คเครดิต
ย้ายไฟแนนซ์รถยนต์แม่ฮ่องสอน ไม่เช็ค Blacklist ให้ยอดจัดสูง
แม่ฮ่องสอน สินเชื่อเพื่อคนมีรถให้วงเงินสูง ดอกเบี้ยต่ำ ต้องการเงินสดรถคุณช่วยได้ อนุมัติเร็ว
แม่ฮ่องสอน รถติดไฟแนนซ์เปลี่ยนเป็นเงินได้มีเจ้าหน้าที่การตลาดบริการ ทำสัญญาถึงที่ สะดวกรวดเร็ว
รับจัดไฟแนนซ์รถยนต์แม่ฮ่องสอน หลายประเภท รถบ้าน รถ รถ 4-6 ล้อ รถ 10 ล้อ
รับย้ายไฟแนนซ์ รับปิดบัญชี รับไถ่รถยึดแม่ฮ่องสอน ให้ยอดจัดสูง จนคุณพอใจ ดอกเบี้ยต่ำสุด
7 เทคนิค รับมือไฟแนนซ์ เมื่อท่านกำลังถูกยึดรถ
1. สิ่งที่ไฟแนนซ์มักจะข่มขู่ คือ ให้เรารับผิดชอบค่าติดตามยึดรถ ค่าทนายความ ค่าธรรมเนียมศาล โดยมักข่มขู่ ให้ผู้เช่าซื้อเป็นผู้รับผิดชอบ โดยอ้างตัวเลขจำนวนสูง และเราควรรู้ไว้ด้วยว่าไฟแนนซ์ไม่สามารถเรียกค่าใช้ จ่ายดังกล่าวได้ตามอำเภอใจ การค่าเสียหายเรียกได้ตามค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น ดังนั้นผู้เช่าซื้ออย่าวิตก
2. การเข้ายึดรถผู้เช่าซื้อจะต้องค้างชำระค่าเช่าซื้อ 3 งวดติดต่อ กัน ก่อนยึดรถอีก 1 เดือน รวมเป็น 4 เดือน ไฟแนนซ์จึงจะสามารถยึดรถได้ แต่ถ้าไฟแนนซ์ยึดรถก่อนหน้านี้จะมีความ ผิดตาม พรบ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ซึ่งคุ้มครองเกี่ยวกับเรื่องสัญญา ดังนั้นถ้าไฟแนนซ์มายึดรถก่อนกำหนดเวลาดังกล่าว ผู้เช่าซื้อต้องอย่ายอมให้ยึดรถและให้เรียกตำรวจมาเป็นพยาน
3. การยึดรถถ้าผู้เช่าซื้อไม่ยินยอมให้ยึดรถ ไฟแนนซ์จะยึดรถไม่ได้ ถ้ามีการบังคับขู่เข็ญหรือไล่ให้ผู้เช่าซื้อลงจากรถหรือกระชากกุญแจรถ ไป หรือเอากุญแจสำรองมาเปิดรถและขับหนีไป การกระทำดังกล่าวมีความผิดต่อ เสรีภาพ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309 และถ้ากระทำการโดยมีอาวุธหรือร่วมกระทำความผิดด้วยกัน ตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เพราะฉะนั้นถ้ามีคนกระทำการดังกล่าวให้ถ่าย รูปหรือบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน และแจ้งความดำเนินคดีอาญา หรือให้ทนาย ฟ้องศาลได้เลย
4. เมื่อผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อ ไม่ควรให้ไฟแนนซ์ยึดรถ ยืนยันได้เลยว่าไม่ควรให้ไฟแนนซ์ยึดรถไม่ว่าในกรณีใดๆ เพราะถ้าถูกยึดรถแล้วเราก็จะหมดอำนาจต่อรอง และหลังจากยึดรถไปแล้วไฟแนนซ์จะ นำรถของเราไปขายทอดตลาดในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดมาก แถมเมื่อได้เงินมาไม่ เพียงพอกับค่าเช่าซื้อที่เราค้างชำระ ไฟแนนซ์ก็จะเรียกค่าเสียหายในส่วนนี้จากเรา แต่ถ้ารถยังอยู่ในความครอบครองของเรา เรายังสามารถใช้ประโยชน์ในทรัพย์ได้ (พูดง่ายๆ ก็คือใช้รถหาเงินได้อยู่นั่นเอง) และยังมีอำนาจต่อรองกับไฟแนนซ์อยู่
5. ในกรณีที่เราถูกยึดรถและไฟแนนซ์มีหนังสือแจ้งให้ชำระหนี้ส่วนที่ เหลือ อย่าตกใจให้หาทนายสู้คดี โดยทั่วไปค่าเสียหายของไฟแนนซ์มักจะสูงเวอร์ สุดๆ ยกตัวอย่างเช่น เรียกมา 1,000,000 บาท ศาลมักจะพิพากษาให้ชดใช้เพียง 500,000 บาทหรือ 300,000 บาท เท่านั้น
6. เมื่อแพ้คดีไฟแนนซ์จะต้องทำตัวอย่างไร ถ้าเรามีทรัพย์สินถือครอบครองในนามลูกหนี้เราจะถูกยึดทรัพย์ทั้งหมด ถ้า ไม่มีทรัพย์สินถือครอบครองในนามลูกหนี้ แต่ถือครอบครองในนามญาติ พี่น้อง เพื่อนฝูง ไฟแนนซ์ก็ไม่สามารถยึดทรัพย์ของคนอื่น ซึ่งมิใช่ลูกหนี้ ได้ ดังนั้นถ้ามีไฟแนนซ์มาข่มขู่ว่าลูกหนี้มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านของใคร จะยึด ทรัพย์เจ้าของบ้าน ตอบได้เลยว่าไม่ต้องกลัวเพราะตามกฎหมายไม่สามารถยึดได้
7. ถ้าไม่มีเงินจ่ายไฟแนนซ์จะติดคุกหรือไม่สามารถตอบได้เลยว่า ไม่ติดคุกเนื่องจากเป็นคดีแพ่งไม่ใช่คดีอาญา
สุดท้ายการเป็นหนี้ไฟแนนซ์ ไม่ต้องลาออกจากงาน เพราะไม่มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน การเป็นหนี้สิน เป็นเรื่องส่วน ตัว ไฟแนนซ์นำเรื่องส่วนตัวไปประจานให้เพื่อนร่วมงานหรือผู้บังคับบัญชาของ ลูกหนี้รับรู้ไม่ได้ ถือว่ามีความผิดฐานหมิ่นประมาท (เรายังสามารถฟ้องได้อีก) แต่ถึงยังไงข้อมูลเหล่านี้ให้รู้เอาไว้เพื่อที่เราจะได้ไม่โดนข่มขู่จนหลง เชื่อ และเสียเปรียบ แต่อย่าเอาไปใช้ในทางที่ไม่ถูกไม่ควรครับ
รีไฟแนนซ์รถยนต์อย่างไรให้คุ้มค่า ได้เงินก้อนเหลือใช้กลับมา
การรีไฟแนนซ์รถ คืออะไร
การรีไฟแนนซ์รถยนต์ มีลักษณะคล้ายกับการรีไฟแนนซ์บ้าน คือการที่ผู้เช่าซื้อรถยนต์ได้ทำการกู้เงินก้อนใหม่เพื่อไปใช้หนี้ก้อนเก่าซึ่งอาจจะได้ประโยชน์ที่ดีกว่าเดิม ได้ขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ หรือได้ดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเดิม ก่อนที่เราจะปิดบัญชีเพื่อนำรถมารีไฟแนนซ์ใหม่ผู้เช่าซื้อต้องคำนวณว่า ดอกเบี้ยคงเหลือตามสัญญากู้เดิมเมื่อนำมาหักส่วนต่างดอกเบี้ยที่จะทำการกู้ใหม่ว่าคุ้มหรือเปล่าไม่ว่าจะเป็นการรีไฟแนนซ์ที่เดิมหรือที่ใหม่ เมื่อธนาคารพิจารณาอนุมัติให้จัดทำสินเชื่อใหม่ก็เริ่มผ่อนชำระใหม่ โดยเริ่มนับเวลาใหม่เป็นการชำระเดือนที่ 1 ไปจนครบงวดที่กำหนดไว้
ตัวอย่างเช่น
นาย ก. ซื้อรถยนต์ 800,000 บาท ดาวน์ไปแล้ว 200,000 บาท ต้องผ่อนอีก 600,000 บาท
ธนาคารคิดดอกเบี้ย 4% ต่อปี ระยะผ่อนชำระ 7 ปี (84 เดือน)
ดอกเบี้ยที่เราต้องส่งตลอด 7 ปี คือ 600,000 x 4% = 24,000 x 7 ปี = 168,000 บาท
ทำให้มีเงินที่ต้องผ่อนชำระคืนธนาคารทั้งหมด 768,000 บาท ผ่อนชำระ 84 เดือน
เท่ากับ ต้องผ่อนชำระรถยนต์เดือนละ 768,000/84 = 9,143 บาท
เมื่อเราผ่อนรถยนต์ไปเป็นเวลา 3 ปี รถคันนี้จะเหลือวงเงินค้างธนาคารอยู่ 270,852 บาท (600,000 - (9,143 x 36) = 270,852 บาท)
แต่เมื่อให้ธนาคารลองประเมินราคารถของเรา รถของเราอาจจะสามารถรีไฟแนนซ์ได้ในราคา 600,000 บาท เเละเมื่อยื่นเรื่องรีไฟแนนซ์ใหม่ นาย ก. ก็จะเหลือเงินที่เป็นส่วนต่างอยู่ 129,148 บาท (ยอดใหม่ - ยอดค้างเดิม = 600,000 - 270,852 = 329,148 บาท)
ทำไมเราต้องรีไฟแนนซ์รถยนต์
การทำแบบนี้เป็นขั้นตอนที่ทำให้ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายลดลง เหลือเงินก้อนหมุนเวียนเพื่อใช้จ่าย เป็นอีกทางเลือกดีๆ ของหลายคนที่กำลังผ่อนรถอยู่ในปัจจุบัน และข้อดีอีกอย่างของการรีไฟแนนซ์รถยนต์ คือเป็นการกู้เงินที่ดีกว่ากดเงินสดจากบัตรเครดิต เพราะดอกเบี้ยนั้นถูกกว่ามาก โดยดอกเบี้ยของการรีไฟแนนซ์รถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 3 – 5 % ส่วนดอกเบี้ยของบัตรเครดิตอยู่ที่ประมาณ 20% ขึ้นไป
เตรียมตัวรีไฟแนนซ์รถ
หลายคนอยากรีไฟแนนซ์รถยนต์แต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นแบบไหนดี เรามาดูกันว่าถ้าอยากจะรีไฟแนนซ์รถยนต์นั้น เราสามารถทำอย่างไรได้บ้าง ซึ่งแบ่งได้เป็นสองกรณี ได้แก่
1.กรณีอยู่ระหว่างผ่อนชำระ
สามารถรีไฟแนนซ์ได้กับธนาคารเดิม หรืออาจจะรีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่ก็ได้
รีไฟแนนซ์กับธนาคารใหม่
ข้อดี
ดอกเบี้ยมีโอกาสถูกกว่าธนาคารเดิม
ยื่นกู้ได้ง่ายขึ้น เพราะธนาคารใหม่มีโอกาสให้เงื่อนไขดีกว่าธนาคารเดิม
ข้อเสีย
หลังจากย้ายธนาคารจะต้องเสียค่าโอนเล่ม ค่าตรวจสภาพรถยนต์ ค่าอากรแสตมป์อีกรอบ ซึ่งทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
รีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม
ข้อดี
การรีไฟแนนซ์ที่เดิม มีโอกาสผ่านง่ายกว่าที่ใหม่หากมีประวัติในการผ่อนชำระดี
ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะไม่ต้องเสียค่าโอนย้ายกรรมสิทธิ์
ข้อเสีย
เพราะเป็นธนาคารเดิมทำให้อาจไม่ได้ทางเลือกที่ดีที่สุด
2. กรณีผ่อนชำระเสร็จเรียบร้อยแล้ว
มีรถที่ปลอดภาระและต้องการนำมาขอกู้เงินเรียกว่าการ “จำนำทะเบียน” โดยสามารถนำเล่มทะเบียนไปค้ำประกันได้ จากนั้นก็ขอกู้เงินแบบไม่ต้องเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียน หรืออีกแบบคือการขอกู้จากธนาคารด้วยการยอมเปลี่ยนชื่อในเล่มทะเบียน
ส่วนขั้นตอนในการยื่นรีไฟแนนซ์นั้นสามารถทำได้ด้วยตนเองนั้น สามารถทำผ่านดีลเลอร์ของธนาคารก็ได้เช่นกัน
รีไฟแนนซ์รถยนต์ให้คุ้มค่า ควรรู้อะไรอีกบ้าง
ปัจจัยเกี่ยวกับรถยนต์
รถยนต์ที่รีไฟแนนซ์ไม่ได้ หรือได้แต่ได้ยอดน้อยมาก มักเป็นรถที่อายุเกิน 16 ปี และรถยนต์ที่รีไฟแนนซ์ได้ราคาค่อนข้างดี คือ รุ่นยอดนิยม เช่น Honda, Toyota, BMW, Benz เป็นต้น
อุปสรรคที่พบในผู้กู้
ในฐานะผู้กู้เองก็มีอุปสรรคบางอย่างที่อาจพบได้ เช่น ฐานเงินเดือนน้อย หรือมีการติดเครดิตบูโร ทำให้ได้ยอดเงินที่ไม่สูงมาก เอกสารไม่ครบ หรือเพิ่งทำงานได้ไม่นานทำให้ได้รับความน่าเชื่อถือไม่เพียงพอ
นำส่วนต่างจากการรีไฟแนนซ์มาต่อยอด
ถ้ามีเงินส่วนต่างที่เหลือจากการรีไฟแนนซ์รถยนต์ ก็สามารถนำมาต่อยอดลงทุนได้ เช่น ซื้อกองทุนรวม หรือเก็บไว้ในบัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูง เป็นต้น
เข้าใจว่ารีไฟแนนซ์รถยนต์นั้น มีความแตกต่างจากรีไฟแนนซ์บ้าน
ควรลองประเมินมูลค่ารถยนต์ดูก่อนว่ามูลค่ารถยนต์ในปัจจุบันของคุณมากกว่ายอดติดจำนองหรือเปล่า เพราะการรีไฟแนนซ์รถยนต์มีข้อที่แตกต่างจากการรีไฟแนนซ์บ้าน นั่นคือเมื่อเวลาผ่านไปมูลค่ารถยนต์จะค่อยๆ ลดลง แต่มูลค่าบ้านอาจจะเพิ่มสูงมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เมื่อถูกประเมินหลักทรัพย์ค้ำประกัน รถยนต์อาจมีมูลค่าน้อยกว่ายอดติดจำนอง จนทำให้เราไม่สามารถรีไฟแนนซ์ได้ เพราะเมื่อเปรียบเทียบระหว่าง "ยอดหนี้ตัวรถยนต์" กับ "มูลค่ารถยนต์ที่ขอสินเชื่อได้ในเวลาปัจจุบัน" แล้วไม่คุ้มค่า เช่น
ยอดหนี้ตัวรถยนต์ 600,000 บาท
มูลค่ารถยนต์ที่ขอสินเชื่อได้ในเวลาปัจจุบัน วงเงิน 400,000 บาท
ทำให้เห็นว่า มูลค่ารถยนต์ที่ขอสินเชื่อได้ มียอดที่น้อยกว่าทำให้มีส่วนต่างที่ติดลบอยู่ 200,000 บาท และต้องขาดทุนเพิ่มเมื่อจะทำการรีไฟแนนซ์รถยนต์คันนี้

สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
- วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร
- วัดหลวง
- วัดศรีชุม
- วัดหัวข่วง
- วัดพระนอน
- วัดศรีบุญเรือง
- วัดพงษ์สุนันท์
- วัดจอมสวรรค์
- วัดสระบ่อแก้ว
- คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่
- คุ้มวงศ์บุรี
- บ้านประทับใจ
- วัดพระธาตุช่อแฮ
- วัดพระธาตุจอมแจ้ง
- วัดพระธาตุดอยเล็ง
- วัดพระธาตุสุโทนมงคลคีรีสามัคคีธรรม
- วัดพระหลวงธาตุเนิ้ง
- อุทยานวรรณคดีลิลิตพระลอทางธรรมชาติ
- น้ำตกแม่เกิ๋ง
- น้ำตกห้วยโรง
- อุทยานหินปะการัง
- ม่อนหินพิศวง
- ถ้ำผานางคอย
- แพะเมืองผี
- แก่งเสือเต้น
- อุทยานแห่งชาติดอยผากลอง
- อุทยานแห่งชาติแม่ยม
- อุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย
- อ่างแม่สอง
- น้ำตกซาววาโบราณสถาน
- คุ้มเจ้าหลวง
- คุ้มวงศ์บุรี
- บ้านประทับใจ
- คุ้มวิชัยราชา
- คุ้มเจ้าหนานไชยวงศ์
- คุ้มขัติยะวรา
- คุ้มวงศ์พระถาง
การเดินทาง
- จังหวัดแพร่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 555 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางสู่จังหวัดแพร่ได้หลายวิธี ทั้งทางรถยนต์ส่วนตัว รถประจำทาง รถไฟ และเครื่องบิน
โดยรถไฟ : จังหวัดแพร่มีทางรถไฟตัดผ่านที่อำเภอเด่นชัย อยู่ห่างจากตัวจังหวัดประมาณ 24 กิโลเมตร การรถไฟแห่งประเทศไทยให้บริการเดินรถระหว่างอำเภอเด่นชัยและจังหวัดต่างๆ ทั้งเที่ยวขึ้นและเที่ยวล่องทุกวัน
โดยรถยนต์ : จากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดแพร่ สามารถใช้เส้นทางรถยนต์ได้ 3 เส้นทาง ดังนี้
เส้นทางที่ 1 กรุงเทพฯ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-เด่นชัย-แพร่ (ทางหลวงหมายเลข 11) สายใหม่ จากรังสิตมาตามถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ที่อำเภอวังน้อย จากนั้นผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สิงห์บุรี เข้าทางหลวงหมายเลข 1 อีกครั้งที่จังหวัดชัยนาท ตรงไปจังหวัดนครสวรรค์ แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 117 (นครสวรรค์-พิษณุโลก) ผ่านจังหวัดพิจิตร พิษณุโลก จากนั้นก็เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 125 (เลี่ยงเมืองพิษณุโลก-วังทอง) แล้วเลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 11 (พิษณุโลก-เด่นชัย) ตรงไป จ.อุตรดิตถ์ และเข้าสู่ตัวจังหวัดแพร่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 7-8 ชั่วโมง เป็นเส้นทางที่ได้รับความนิยมและสะดวกสบายในการเดินทางมากที่สุด
เส้นทางที่ 2 กรุงเทพฯ-กำแพงเพชร-สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-แพร่ (ทางหลวงหมายเลข 101) สายเก่า ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 1 เมื่อไปถึงจังหวัดนครสวรรค์ ให้ตรงไป ที่จังหวัดกำแพงเพชร แล้วเลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 101 (สายเก่า กำแพงเพชร – น่าน) โดยผ่าน อ.พรานกระต่าย อ.คีรีมาศ ตรงไปจังหวัดสุโขทัย ผ่าน อ.สวรรคโลก อ.ศรีสัชนาลัย แล้วตรงไปตามทางหลวงหมายเลข 101 อีกเช่นเคย เข้าเขตจังหวัดแพร่ ผ่าน อ.วังชิ้น แล้วเลี้ยวขวาตามทางหลวงหมายเลข 101 อีกครั้ง ที่ อ.เด่นชัย ผ่านตรงไป อ.สูงเม่น และเข้าสู่จังหวัดแพร่ เช่นกัน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 9 ชั่งโมงเศษ เส้นทางนี้ เคยเป็นเส้นทางสายเก่าของภาคเหนือเมื่อประมาณ 50 ปีที่แล้วก่อนที่จะมีทางหลวงหมายเลข 11 (เด่นชัย – พิษณุโลก) สำหรับผู้ที่จะไป จังหวัดแพร่ โดยใช้เส้นทางที่ 2 นี้ จะเหมาะเดินทางในเวลากลางวันมากกว่ากลางคืน เพราะเส้นทางที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 101 (ช่วงเด่นชัย-ศรีสัชนาลัย) จะโค้งดเคี้ยว และเส้นทางค่อนข้างแคบ ทับไปตามแนวป่าเขาสูง จึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ
เส้นทางที่ 3 กรุงเทพฯ-ตากฟ้า-วังทอง-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-แพร่ (ทางหลวงหมายเลข 11) สายใหม่ ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 1 เมื่อถึงอำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรีแล้ว ให้เลี้ยวขวา ไปตามทางหลวงหมายเลข 11 (ตากฟ้า-วังทอง) ผ่าน จ.นครสวรรค์ จ.พิจิตร และ เข้าสู่ อ.วังทอง จ.พิษณุโลก แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 12 (พิษณุโลก-สุโขทัย) จากนั้นก็เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 11 (พิษณุโลก-เด่นชัย) อีกครั้ง ผ่าน จ.อุตรดิตถ์ แล้วตรงไป อ.เด่นชัย เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 101 ไปสู่จัหวัดแพร่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมงเศษ
โดยรถประจำทาง : บริษัท ขนส่ง จำกัด และบริษัทเอกชนมีรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ สายกรุงเทพฯ-แพร่ และกรุงเทพฯ-แพร่-สอง ออกจากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) ถนนกำแพงเพชร 2 ทุกวัน
โดยเครื่องบิน :
สายการบินในประเทศ
รถโดยสารประจำทางระหว่างต่างจังหวัดและกรุงเทพมหานคร
- สาย 923 กรุงเทพ-แพร่ (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ บุษราคัมทัวร์ นครชัยแอร์ (ปรับอากาศ ป.2 และ ปรับอากาศชั้นเดียว ป.1)
- สาย 923-1 กรุงเทพ-แพร่-สอง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-เด่นชัย-แพร่-สอง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ (ปรับอากาศสองชั้น ป.1)
- สาย 922 กรุงเทพ-พะเยา (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-พะเยา) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ เชิดชัยทัวร์
- สาย 964 กรุงเทพ-วังชิ้น (แพร่) (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-ตาก-อ.เถิน-อ.วังชิ้น) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. (ปรับอากาศชั้นเดียว ป.1)
- สาย 910 กรุงเทพ-น่าน (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-เด่นชัย-แพร่-ร้องกวาง-เวียงสา-น่าน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ บุษราคัมทัวร์ นครชัยแอร์
- สาย 96 กรุงเทพ-น่าน (กรุงเทพ-นครสวรรค์-กำแพงเพชร-สุโขทัย-อุตรดิตถ์-แพร่-ร้องกวาง-เวียงสา-น่าน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. เชิดชัยทัวร์ บุษราคัมทัวร์
- สาย 47 กรุงเทพ-ทุ่งช้าง (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-เวียงสา-น่าน-ปัว-เชียงกลาง-ทุ่งช้าง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์
- สาย 962 กรุงเทพ-เชียงของ (กรุงเทพ-วังทอง-แพร่-พะเยา-เทิง-เชียงของ) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ โชครุ่งทวีทัวร์ บุษราคัมทัวร์ เชิดชัยทัวร์ นครชัยแอร์
- สาย 909 กรุงเทพ-เชียงราย (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. โชครุ่งทวีทัวร์ เชิดชัยทัวร์ สมบัติทัวร์
- สาย 957 กรุงเทพ-แม่สาย (กรุงเทพ-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ บขส. สมบัติทัวร์ เชิดชัยทัวร์ โชครุ่งทวีทัวร์ นครชัยแอร์
- สาย 660 ระยอง-เชียงราย-แม่สาย (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 660 ระยอง-แพร่-น่าน (ระยอง-พัทยา-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา-สระบุรี-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-ร้องกวาง-เวียงสา-น่าน) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยแอร์
- สาย 661 เชียงราย-นครพนม (นครพนม-สกลนคร-อุดรธานี-เลย-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สมบัติทัวร์ จักรพงษ์ทัวร์
- สาย 622 พิษณุโลก-เชียงราย-แม่สาย (สายเก่า) (พิษณุโลก-สุโขทัย-สวรรคโลก-ศรีสัชนาลัย-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย-แม่สาย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 624 พิษณุโลก-เชียงของ (สายใหม่) (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงคำ-เชียงของ) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 622 พิษณุโลก-เชียงราย (สายใหม่) (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์
- สาย 613 พิษณุโลก-น่าน-ทุ่งช้าง (พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-น่าน-ทุ่งช้าง) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ สุโขทัยวินทัวร์ และ นครน่านทัวร์
- สาย 663 นครสวรรค์-เชียงราย (นครสวรรค์-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครสวรรค์ยานยนต์ (ถาวรฟาร์มทัวร์)
- สาย 633 ขอนแก่น-เชียงราย (ขอนแก่น-ชุมแพ-หล่มสัก-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-งาว-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ อีสานทัวร์ สมบัติทัวร์
- สาย 651 นครราชสีมา-แม่สาย (นครราชสีมา-สระบุรี-โคกสำโรง-ตากฟ้า-เขาทราย-วังทอง-พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ นครชัยทัวร์
- สาย 780 ภูเก็ต-เชียงราย (ภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี-ชุมพร-ประจวบฯ-เพชรบุรี-อยุธยา-นครสวรรค์-พิษณุโลก-แพร่-พะเยา-เชียงราย) บริษัทผู้เดินรถ ได้แก่ โชครุ่งทวีทัวร์ และไทยพัฒนกิจขนส่ง
- สาย 877 หาดใหญ่-เชียงราย-แม่สาย (แม่สาย-เชียงราย-พะเยา-แพร่-อุตรดิตถ์-พิษณุโลก-ทุ่งสง-พัทลุง-หาดใหญ่-ด่านนอก) บริษัท ปิยะชัยพัฒนาทัวร์
- สาย 1692 เชียงใหม่-ทุ่งช้าง (เชียงใหม่-ลำปาง-เด่นชัย-แพร่-ร้องกวาง-น่าน-ปัว-เชียงกลาง-ทุ่งช้าง) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด
- สาย 1693 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-แม่แขม-เด่นชัย-สูงเม่น-แพร่) บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด
- สาย 144 เชียงราย-เด่นชัย (เชียงราย-พาน-พะเยา-งาว-แพร่-เด่นชัย) บริษัท แพร่ยานยนต์ขนส่ง (หนานคำทัวร์) จำกัด
- สาย 143 อ.เฉลิมพระเกียรติ-น่าน-อ.เด่นชัย (ห้วยโก๋น-เฉลิมพระเกียรติ-ทุ่งช้าง-เชียงกลาง-ปัว-น่าน-เวียงสา-ร้องกวาง-แพร่-เด่นชัย) บริษัท นครน่านยานยนต์ขนส่ง จำกัด
- สาย 146 ลำปาง-แพร่ (ลำปาง-ม.ราชภัฏลำปาง-แม่ทะ-แม่แขม-ลอง-แพร่) บริษัท สหกรณ์นครลำปางเดินรถ จำกัด
- สาย 135 พิษณุโลก-สุโขทัย-แพร่ (แพร่-เด่นชัย-ศรีสัชนาลัย-สวรรคโลก-สุโขทัย-พิษณุโลก) บริษัทผู้เดินรถ (รถตู้) สุโขทัยวินทัวร์
-